อุโบสถ "ทรงเรือสำเภาเกยตื้น"

อุโบสถวัดบึงทองหลาง

สาเหตุที่สร้าง

เนื่องจากอุโบสถหลังเก่าคับแคบ และผ่านกาลมานานปี เกิดชำรุด เมื่อพระสงฆ์รวมกันทำอุโบสถกรรมแต่ละครั้ง ก็สร้าง

ความลำบากให้พระสงฆ์อยู่ไม่น้อยเพราะภายในอุโบสถสามารถรับพระภิกษุได้ไม่เกิน 100 รูป แต่พระสงฆ์วัดบึงทองหลางในระหว่างพรรษาบางปีมีถึง 120 รูป และเวลานั่งทำสังฆกรรมปูนฉาบผนังภายในก็ร่วงหล่นยังผลให้เกิดการกังวลใจ พระคุณท่าน(พระครูพิศาลวิริยคุณ) จึงได้ปรึกษาคณะกรรมการอันประกอบด้วยคฤหัสและบรรพชิต มีมติให้สร้างอุโบสถหลังใหม่

เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( เสงี่ยม จนฺทสิริ เปรียญ 6 ประโยค )

วางศิลาฤกษ์

ครั้นได้ฤกษ์งามยามดีจึงวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2522 โดยมีเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( เสงี่ยม จนฺทสิริ เปรียญ 6 ประโยค ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามเป็นประธานในพิธี

ลักษณะรูปทรง

รูปทรงทำตามความคิดของพระคุณท่าน อาศัยพระที่นั่งศรีสรรเพชร สมัยอยุธยาตอนปลายเป็นครู แต่พระคุณท่านดัดแปลงจากจตุรมุขมณีมณฑปอยู่กลาง เหลือแค่ 2 มุข ไม่มียอดมณฑป พระคุณท่านได้มอบให้คณาจารย์จากกรมศิลปากรเขียนเเปลน โดยมีอาจารย์เสนอ นิลเดช เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าคณะ

 โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหลัง ผนังก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น โปร่งกลางอากาศผ่านเข้าออกได้ทั้งหลัง หลังคาเทคอนกรีตเสริมเหล็ก 4 รถ มุงกระเบื้องลอนเคลือบสีน้ำเงิน ชายน้ำทาสีขาวและแดง หลังคาจึงมีสีดั่งธงชาติไทย ที่สุดของหลังคาคือช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ บราลี อยู่บนหลบฝนตามแบบสุโขทัย ขนาดของอุโบสถกว้าง 16 เมตรยาว 42 เมตรสูง 22 เมตร

ประตูมี 5 ประตูด้านหน้า 3 ด้านหลัง 2  เฉพาะบานประตูคู่กลางด้านหน้า สั่งทำเป็นกรณีพิเศษด้านหน้าประดับมุกแบบขุดและฝังมุกลงไปในเนื้อไม้เป็นลายไทยก้านขด ด้านหลังบานประตูแกะสลักเป็นลายดอกพุดตาน (ขณะนี้มกราคม 32 ยังไม่สำเร็จทำได้ 75%)  มูลค่าบานประตูคู่นี้ประมาณ 1,000,000 (หนึ่งล้านบาท) ที่เหลืออีก คือด้านหน้า 2 ด้านหลัง 2  เป็นลายแกะสลักประดับกระจกลงรักปิดทอง ลักษณะลายแบบเจ้าพ่อเขี้ยวกลางแปลทำหน้านูนออกมาให้เห็นส่วนลึก 

ด้านหน้า 14 ช่องแต่ละบานแกะสลักประดับกระจกลงรักปิดทองเป็นการรวบรวมศิลปะลายไทยที่สวยงามจากสถานที่ต่างๆ  4 ช่องเช่นลายตู้พระธรรมวัดเชิงหวาย อีก 7 ช่องเป็นลายพระเคราะห์ประจำวันทั้ง 7  และในบานหน้าต่างแต่ละบานจะมีสิงห์โตเป็นสัญลักษณ์ของพระคุณท่านเจ้าอาวาส (นามเดิม พระสิงห์โต ติสฺโส) 

ภายในอุโบสถ พื้นปูปาเก้ไม้สัก ผนังสูง 1 เมตร ประดับลูกฟักไม้สักผนังภายในเขียนภาพพุทธประวัติประกอบลายไทย 

ที่มาของฐานเรือสำเภา

พระคุณท่านเล่าว่าสมัยก่อนโน้นบริเวณวัดบึงทองหลางเป็นบึง โดยเฉพาะบริเวณที่สร้างอุโบสถเป็นบึงลึกต้องใช้เรือพายเก็บดอกอุบลขันถมดินเต็มบึงเรือจึงแล่นไม่ได้ เพื่อเป็นการระลึกถึง อดีตพระคุณท่านจึงสร้างอุโบสถฐานแบบเรือสำเภาไว้เป็นอนุสรณ์ว่า “เมื่อน้ำแห้งเรือจึงเกิดเกยตื้น”

เงินทุนในการก่อสร้าง

เริ่มก่อสร้างทางเข้าวัดมีเงินสดเพียง  300,000 บาท ด้วยอาศัยพี่พระคุณท่านมีปฏิปทาดี คณะศรัทธาจึงเลื่อมใส ร่วมกันบริจาคทรัพย์ก่อสร้างอย่างมหาศาล อาทิเช่น.-

กำนันจำปา นางผุก กาญจนวาศ            1,700,000.00 บาท

นางสาวทองห่อ นาประเสริฐ                1,000,000.00 บาท

นายย้อย นางเกตุ ควบคุม                         500,000.00 บาท

นายเขียน นางกรี มณีขาว                         500,000.00 บาท

นายชม นางพุ่ม ปอประสิทธิ์                    300,000.00 บาท

นางแห ทั่งสุวรรณ                                    200,000.00 บาท

นายใจ นางยิ้ม อ่วมคุ้ม                             200,000.00 บาท

นายประธาน ดวงรัตน์                              150,000.00 บาท

นายมาลัย นางวิไล เมืองประเสริฐ            101,560.00 บาท

พระครูภัทรวิริยคุณ                                   100,000.00 บาท

นายทองคำ นางสร้อย ภุมมาลา                 100,000.00 บาท

นายเชวง นางไน้ เคียงศิริ                           100,000.00 บาท

นายถนอม นางจรูญ เดชะดี                        100,000.00 บาท

และผู้ร่วมบริจาคอื่นๆรวมเป็นเงินทั้งสิ้น             11,810,157.00  บาท  (สิบเอ็ดล้านแปดแสนหนึ่งหมื่นหนึ่งร้อยสี่สิบเจ็ดบาทถ้วน) ยอดเงินนี้รวมเมื่อเดือน ธันวาคม พ.ศ 2531 ขณะนี้ (มกราคม 2532)  ยังขาดเงินตกแต่งภายในเช่นโคมไฟ และทำกำแพงแก้ว อีกประมาณ 300,000.00 บาท (สามล้านบาท) การก่อสร้างอุโบสถดำเนินมาด้วยดี เพราะได้อาศัยแรงศรัทธาจากหลาน ๆ ท่าน ได้ร่วมบริจาคเงินสมทบทุนในการก่อสร้าง คณะผู้จัดทำหนังสือต้องขออภัยที่มิอาจนำรายนามผู้บริจาคมากล่าวในที่นี้ได้ทั้งหมด และหากว่าจำนวนเงินหรือรายนามผิดพลาด ท้ายที่สุดนี้ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย จงดลบันดาลให้ท่านทั้งหลาย มีแต่ความสุข ความเจริญ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ และประสบสิ่งอันพึงปรารถนา ทุกทิพาราตรีกาลเทอญฯ

คณะผู้จัดทำ.-

****************************************

ที่มาของข้อมูล : หนังสือพระครูพิศาลวิริยคุณ พระครูสัญญาบัตรชั้นเอก  5 ธันวาคมพ. ศ. 2531