ข้อความวิ่ง

ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ มูลนิธิพระครูพิศาลวิริยคุณ (สิงห์โต ติสฺโส) วัดบึงทองหลาง แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร

วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2563

ประวัติหลวงปู่พัก (วัดบึงทองหลาง)

พระครูธรรมะสมาจารย์ นามเดิมชื่อพัก นามสกุลแย้มพิทักษ์ เกิดปีชวด ตรงกับ พ.ศ. 2419  เกิดที่ตำบลวัดพิพาท อำเภอวังไม้ขอน จังหวัด

สวรรคโลก เป็นบุตร นายแย้ม นางอิ่ม แย้มพิทักษ์ มีพี่น้องร่วมบิดามารดากันทั้งหมด 6 คน เป็นชาย 5 คน เป็นหญิง 1 คน เมื่อเป็นเด็กๆ บิดามารดารักและโปรดปรานมาก เพราะนิสัยดี รู้จักกตัญญูกตเวทีเชื่อฟังคำบิดามารดา และรู้จักอ่อนน้อมต่อญาติพี่น้องทุกคน นอกจากนั้นยังมีนิสัยผิดกับเด็กอื่น คือ ชอบสงบเสงี่ยม มีหิริโอตัปปะ ไม่เกะกะเกเร บิดามารดาเห็นเช่นนั้น จึงนำไปฝากให้ศึกษาธรรมวินัยอยู่กับพระอุปัชฌาย์อาจ ที่วัดสว่างอารมณ์ ต่อมาท่านอุปัชฌาย์ เห็นว่าเอาใจใส่รักการศึกษาดี จึงนำลงมาฝากให้ศึกษาต่อที่สำนักวัดสุทัศน์เทพวราราม กรุงเทพฯ 

เมื่อศึกษาเป็นเณร มีอายุครบพอจะอุปสมบทได้ จึงมีผู้อุปการะ ชื่อ นายตรง นางเขียน บ้านถนนตีทอง หลังวัดสุทัศน์จัดการอุปสมบทให้ และปวารณาตนเป็นโยมอุปถัมภ์ตลอดมา โดยที่สมเด็จพระวันรัตแดงเป็นอุปัชฌาย์ ขณะที่กำลังศึกษาปริยัติธรรมอยู่ ณ วัดสุทัศน์ฯนั้น ท่านได้ตั้งใจศึกษาและปฏิบัติทางสมณกิจได้ดีมาก ท่านเจ้าคุณทิม เมื่อสมัยยังไม่ได้เป็นเจ้าคุณ ได้ศึกษาอยู่ร่วมสำนัก มีบ้านอยู่ในเขตตำบลวังทองหลาง บางกะปิ ได้เห็นและรักใคร่นิสัย จึงชักชวนให้มาเที่ยวและชวนให้จำพรรษาที่วัดบึงทองหลาง เมื่อท่านเห็นว่าสถานที่สงัดและอากาศก็เย็นสบายสมควรเป็นที่ปฏิบัติ ทางสมณกิจได้ดีจึงตกลงใจจำพรรษาตลอดมา สมัยนั้นวัดบึงทองหลางยังไม่เจริญสถานที่ยังลุ่ม อุโบสถและศาลาวิหารยังไม่มี มีแต่กุฏิสงฆ์ไม่กี่หลัง และรอบๆวัดก็ยังเป็นบึงมีแต่ป่า การคมนาคมยังไม่สะดวก อัตตาคัดขาดแคลน ภิกษุสามเณรก็มีน้อยรูป มีอาจารย์หนูเป็นสมภาร เมื่อสิ้นจากอาจารย์หนูแล้ว ต่อมาอาจารย์ปิ๋วเป็นผู้รับหน้าที่สมภารแทน เมื่อสิ้นอาจารย์ปิ๋วแล้ว พระในวัดมีไม่มาก ทั้งพระที่อาวุโสและมีความสามารถก็ไม่มี ทางสงฆ์พร้อมด้วยอุบาสกอุบาสิกา จึงพร้อมใจกันยกท่านขึ้นเป็นสมภาร เมื่อท่านได้เป็นสมภารปกครองวัดแล้ว ท่านได้วางโครงการปรับปรุงกุฏิที่ชำรุดและปลูกเพิ่มขึ้นอีกหลายหลัง โดยวิธีบอกบุญแก่ผู้ที่มีศรัทธา และมีผู้ศรัทธาถวายเรือนหลายหลังท่านก็นำศิษย์ทำการปลูกสร้างด้วยตนเอง โดยไม่เห็นแก่ความลำบาก ในด้านการอบรมสั่งสอน ท่านได้เอาใจใส่มากได้พยายามอบรมภิกษุสามเณร ให้เคร่งครัดต่อระเบียบวินัยเป็นอย่างดี จนเป็นที่นับถือของสาธุชนทั่วไป


(พระครูพิศาลวิริยคุณ สิงห์โต ติสฺโส)     (พล.ต.ประเสริฐ วงษ์สุวรรณ)

นอกจากการอบรมภิกษุสามเณรแล้ว ยังได้ถือโอกาสสอนหนังสือให้เด็กวัดอีก เพราะสมัยนั้นโรงเรียนประชาบาลยังไม่มี เด็กในท้องถิ่นต้องมาเรียนกับพระ ท่านได้เริ่มโครงการสอนมาก่อน นับว่าท่านได้เป็นผู้วางมาตรฐานการศึกษาและศีลธรรม ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นนี้ ยากที่จะหาผู้ใดมาเปรียบปรานได้ ต่อมาใน พ.ศ. 2465  ท่านได้รับหน้าที่เป็นพระอุปัชฌาย์อุปสมบทกุลบุตรเป็นจำนวนมาก และท่านได้วางโครงการสร้างพระอุโบสถขึ้นโดยทุนของท่านร่วมกับประชาชนจนเป็นผลสำเร็จเรียบร้อยใน พ.ศ. 2466  เมื่อสร้างอุโบสถเสร็จแล้ว ท่านใดตั้งโครงการสร้างศาลาการเปรียญอีกหนึ่งหลัง  โดยทุนของท่านบ้าง ทุนชาวบ้านบ้าง สิ้นค่าปลูกสร้างประมาณ 30,000 บาท เสร็จเรียบร้อย เมื่อปี พ.ศ. 2468  หลังจากนั้นท่านคิดว่าการศึกษาจะเจริญในอนาคตจึงคิดสร้างโรงเรียน ขึ้นอีกเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2477  สิ้นค่าปลูกสร้างประมาณ 20,000 บาท และอุทิศให้แก่รัฐบาล ทางราชการเห็นคุณงามความดีของท่าน จึงขอสมณศักดิ์ให้เป็นพระครูชั้นประทวน ต่อมาได้เลื่อนเป็นพระครูชั้นสัญญาบัตร ได้เป็นคณะหมวดตำบล ได้รับพระราชทานราชทินนามว่าพระครูธรรมะสมาจารย์เมื่อ พ.ศ. 2496  

ต่อมาท่านได้จัดสร้างวิหารขึ้นอีก หนึ่งหลัง แต่ในระยะนี้ร่างกายของท่านชราภาพมาก ทำไม่ค่อยจะไหว จึงมอบภาระให้อาจารย์สิงโต เป็นผู้ดำเนินการแทนท่านต่อไป ในระยะต่อมาร่างกายของท่านก็ชำรุดทรุดโทรมลงตามกาลและเวลา พยาธิได้เข้ามารบกวนเสนอมา ข้อนี้นับว่าเป็นของธรรมดา ที่ทุกคนจะหลีกเลี่ยงเสียมิได้ และผลที่สุดท่านก็ได้ถึงแก่กรรม ทั้งๆที่ยังเป็นสงฆ์ ด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ. ศ. 2501  คงทิ้งแต่ความอาลัย และปูชนียสถานที่ท่านได้ก่อสร้างไว้แก่บรรดาศิษย์ยานุศิษย์ทั้งหลายทั่วไป ดังปรากฏอยู่เดี๋ยวนี้.

           

****************************************
ที่มาของข้อมูล : หนังสือเนื่องในงานพระราชทานเพลิงศพ พระครูธรรมะสมาจารย์ พิมพ์ที่โรงพิมพ์ไทยพนิชการ  308  สีลม พระนคร นายธนวนต์ จาตุประยูร ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา  2503  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น